วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

Cultural dress.


การแต่งกายของประเทศเวียดนาม










ผู้หญิง นุ่งกางเกงแพรยาว สวมเสื้อแขนยาว คอตั้งสูง ตัวเสื้อยาวลงมาจรดข้อเท้า ผ่า 2 ข้าง สูงแค่เอว พวกทำงานหนักจะสวมเสื้อสั้น มีกระเป๋า 2 ใบ แขนจีบยาว บางแห่งทางเหนือสวมกระโปรงยาวถึงข้อเท้า
ทรงผม ยาวเกล้ามวยสวมหมวกสานด้วยใบลานทรงรูปฝาชี หรือใช้ผ้าสามเหลี่ยมคลุมศีรษะ ดึงชาย 2 ข้างมาผูกใต้คาง ถ้าเป็นทางเหนือแถวฮานอย ใช้ผ้าดำแถบยาวหุ้มผมซึ่งถักเปียไว้ให้มิดแล้วโอบพันศีรษะ ปัจจุบันนิยมตัดผมสั้น และดัดผมมากขึ้น สวมรองเท้าเกี๊ยะส้นสูง พ่นสีต่าง ๆ รองเท้าสตรีส้นรองด้วยพื้น ยาง คาดหลังด้วยพลาสติดสีต่างๆ
ผู้ชาย แต่งกายคล้ายหญิง บางครั้งสวมเสื้อกุยเฮง สวมหมวกสีดำเย็บด้วยผ้า ไม่มีปีก ปัจจุบันแต่งสากลกันมากแล้ว

สำหรับการแต่งการของเวียนนามโดยทั่วไปก็เหมือนกับประชาชนคนไทยกล่าวคือ หนุ่มสาวรับ วัฒนธรรมของตะวันตกคล้ายกับเยาวชนไทย ต่างกับการแต่งการของเยาวชนชาวลาวซึ่งยังคงยึดมั่นใน วัฒนธรรมประจำชาติของตน 

ผู้หญิงยังคงนุ่งซิ่นกรวมเท้า สวมเสื้อมีปกสีขาวแขนสาม ส่วนผู้ชายก็แต่งตัวเรียบร้อยนุ่งกางเกงทรงสุภาพและใส่เสื้อเชิ้ตเป็นส่วนใหญ่



ชุดประจำชาติเวียดนาม

          ชุดประจำชาติของประเทศเวียดนามที่ประกอบไปด้วยชุดผ้าไหมที่พอดีตัวสวมทับกางเกงขายาวซึ่งเป็นชุดที่มักสวมใส่ในงานแต่งงานและพิธีการสำคัญของประเทศ มีลักษณะคล้ายชุดกี่เพ้าของจีน ในปัจจุบันเป็นชุดที่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงเวียดนาม ส่วนผู้ชายเวียดนามจะสวมใส่ชุดอ่าวหญ่ายในพิธีแต่งงาน หรือพิธีศพ
ชุด  อ่าวหญ่าย แปลว่า ชุดยาว ซึ่งสำเนียงนี้เป็นสำเนียงของภาคเหนือ ส่วนภาคใต้จะออกเสียงสั้น ๆ ว่าอ่าวซ่าย ซึ่งส่วนมากแล้วในอดีตคนในภาคเหนือของประเทศเวียดนามจะนิยมใส่มากกว่าภาคใต้  แต่หลังจากสิ้นสุดสงครามเวียดนามในปี 1975 แล้ว ชุดนี้ก็เป็นที่นิยม สามารถพบเห็นได้แทบจะทุกภาคของประเทศ และได้รับความนิยมมาก


เอกลักษณ์การแต่งกายของชาวเวียดนาม


หมวกใบจาก ที่มีไม่เหมือนใครเรียกว่าNon la ( น๊อนล้า) แต่ทางภาคอีสานบางพื้นที่จะเรียกว่า กุบ ที่อื่น ๆ อาจจะเรียกแตกต่างกันก็ได้ แต่เป็นหมวกนี้เองที่ทำให้สาว ๆ เวียดนาม มีเสน่ห์ไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก หมวกนี้ทำจากใบจาก ที่สามารถหาได้ทั่วไป เวลาจะทำต้องนำใบจากนั้นมาตากแดดให้แห้ง แล้วนำมารีดให้เรียบ เป็นแผ่น ๆ ซึ่งปกติแล้ว หมวกใบหนึ่งจะประกอบด้วย ใบจากประมาณ 16-18 ใบ และใช้มือเย็บอย่างปราณีต ซึ่งจะทำให้หมวกนี้ละเอียด ทนแดด ทนฝน

..............................................................................



การแต่งกายของประเทศกัมพูชา





เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับไทยมาก่อน จึงมีลักษณะศิลปะ      เหมือนกับไทย เช่น ที่จังหวัด สุโขทัยมีศิลปะสมัยขอมอยู่มาก เช่น การทำตะกร้าหวาย เครื่องจักสาน เครื่องไม้ เครื่องเงิน ทองแดง   ทอผ้าพื้นเมือง  เรียกว่า ผ้าซัมปอและผ้าปูม คนไทยสมัยนี้ก็ยังนิยมอยู่ 



ชุดประจำชาติประเทศกัมพูชา

การแต่งกายของชาวกัมพูชาจะนุ่งผ้าซัมปอต (Sompot) เป็นผ้าทอมือ ถือว่าเป็นการแต่งกายประจำชาติ สำหรับข้าราชการผู้ใหญ่จะนุ่งผ้าโฮลกับเสื้อมีกระดุมสีทอง ในงานพิธีจะนุ่ง ผ้าโจงกระเบน เวลาไปวัดจะนุ่งผ้าม่วง



•  ผ้าซัมปอต (Sompot) มีทั้งที่เป็นผ้าฝ้ายและผ้าไหม มีหลายแบบ ถ้าเป็นผ้าที่ใช้ในโอกาส พิเศษจะใช้เส้นใยพื้น เมืองทอ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันจะใช้วัสดุราคาไม่สูง ซึ่งจะส่งมาจากประเทศ ญี่ปุ่น นิยมทำลวดลายตามขวาง ถ้าเป็นชนิดหรูหราจะทอด้ายเงินและด้ายทอง
  ผ้าโฮล (Hol) เป็นผ้าที่สวยงามประณีต และเก่าแก่ที่สุด จะเป็นผ้ามัดหมี่ชนิดหนึ่งเป็น แบบที่มัดเส้นพุ่ง ผ้าโฮลที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและเนื้อผ้าจะทอจาก Koh Sautin, Prek Chang Kran (กัมปะจาน) และ Teuk Chor ผ้าโฮลจะมีลวดลายสำหรับผู้หญิงและชาย เช่น ลายโกฎจะเป็น ลายของผู้ชาย ส่วนลายต้นไม้ ดอกไม้ เป็นของผู้หญิง แต่ในระยะหลังผ้า Hol จะใช้เฉพาะสตรี เท่านั้น

ผู้หญิงนิยมนุ่งผ้าถุงสีดำ เนื้อมัน คาดเข็มขัด ใส่เสื้อสี งานพิธีนุ่งผ้ายก พวกในวังมักนุ่งผ้า โจงกระเบน
ไว้ผมตัด ทานหมากจนฟันดำ 

ผู้ชายนุ่งผ้าโจงกระเบน ใส่เสื้อคอปิด ขัดกระดุมห้าเม็ด


.................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น